เกษตรกรผู้ที่ปลูก “แก้วมังกรอินทรีย์”
ด้วยแนวคิด การกินอยู่กับธรรมชาติ ทำทุกอย่างอย่างตั้งใจ และปล่อยวาง

“เกษตรอินทรีย์ คือการกินอยู่กับธรรมชาติ โดยที่ไม่มีสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย อายุเราก็จะยืน แข็งแรง และไม่เจ็บป่วย”
ดต.จรูญ สาโสธร หรือ ดาบตู่ นอกจากรับราชการตำรวจ ยังสนใจการใช้ชีวิตแบบพอเพียง ทำนาปลูกข้าว และปลูกสวนผลไม้ อย่าง แก้วมังกรอินทรีย์

“เคยมีคนเอาพันธุ์แก้วมังกรมาให้ปลูก ตอนนั้นทำแบบเคมี ใช้แค่ปุ๋ยเคมี พอดีคุณภา (ภาวดี สุพรรณสาย)กลุ่มผลิตพืชคุณภาพท่าเมือง จ.อุบลราชธานี เขามาเห็นผลผลิตของเราก็ชักชวนมาทำอินทรีย์ด้วยกัน เพราะเราทำข้าวด้วยกันอยู่แล้ว และก็มีทีมส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ Lemon Farm PGS ของเลมอนฟาร์มเข้ามาแนะนำการปลูกแบบอินทรีย์การป้องกันการใช้สารเคมีจากสวนเพื่อนบ้าน ทั้งทางอากาศและพื้นราบ ก็เลยตัดสินใจมาทำแบบอินทรีย์เต็มตัว

“เกษตรอินทรีย์ ทำไม่ยาก และต้องปล่อยวาง ไม่คาดหวังกับธรรมชาติมากเกินไป ผมใช้ปุ๋ยคอก ที่ได้จากการเลี้ยงวัว แถมผลผลิตคุณภาพก็ดีกว่า ปลอดภัยกว่า”

แก้วมังกรชอบดินร่วนปนทราย ชอบน้ำไม่มาก ดอกของแก้วมังกรจะบานแค่คืนเดียวในตอนกลางคืน พอตอนเช้าก็จะหุบแล้วก็เจริญเติบโตออกผลตามมา และมีผึ้งคอยช่วยผสมเกสร ช่วยเร่งผลผลิตให้ติดผลเร็วขึ้นด้วย

“ในช่วงที่ดอกเริ่มบาน ผึ้งสำคัญต่อระบบนิเวศมาก  เป็นการเกื้อกูลตามธรรมชาติ ช่วยผสมเกสรให้แก้วมังกรได้ขยายพันธุ์ การใช้สารเคมีจะทำให้ผึ้งหายไป สำหรับผม แก้วมังกรอินทรีย์แต่ละต้น เป็นเหมือนเพื่อนที่ต้องคอยดูแล ผมตั้งชื่อให้พวกเขาด้วย แก้วมังกรหน้าขาว คือสีขาว แก้วมังกรหน้าแดงเล็ก คือผลเล็ก และลูกดก หน้าแดงใหญ่ผลใหญ่ ได้น้ำหนักดี ในส่วนของเนื้อแก้วมังกรที่อร่อยต้องดูที่ผิว แก้วมังกรสีขาว ดูในร่มสีออกขาวคล้ำๆ ขอบจะแดง ถ้าถูกแดดก็ยังขาว ขอบไม่แดงมาก แก้วมังกรสีแดงเล็กแดงใหญ่ ก็จะสีแดงพอๆ กัน”

จะกินให้อร่อยต้องมีเทคนิคการเลือก

ข้อดีของการปลูกแบบอินทรีย์ คือ แก้วมังกรจะค่อยๆเติบโตตามธรรมชาติ ให้เนื้อแน่นกรอบ ไม่ยุ่ย เลือกลูกไม่ใหญ่ไม่เล็กสีขาว ดูที่ปลายหางจะเชิด ลองจับตรงกลางหน้าอกของเขา ต้องไม่บุ๋ม ถ้ามีรอยบุ๋มอย่าซื้อ กลีบต้องไม่แบนราบไปกับผิว ต้องเชิดหน่อย ส่วนสีแดงใจต้องไม่ล้ม ดูที่ผิวที่กลีบเหมือนกัน จะเก็บให้ได้นานต้องแพ็คในลังน้ำแข็ง หรืออยู่ในห้องแอร์ได้ 15 วัน

“สำหรับรสชาติ สีขาวหวานไม่มาก อมเปรี้ยวนิดๆ หมอที่รักษาแม่ผมที่เป็นเบาหวานบอกว่าแม่กินแก้วมังกรสีขาวได้เพราะมีแคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย และช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด แต่ต้องไม่ทานมากเกินไปเพราะระดับน้ำตาลอาจลดต่ำลง ส่วนสีแดงจะหวานจัด และจะหอมกว่า ก็แล้วแต่คนชอบครับ”

“ผมอยากให้ผู้บริโภคได้กินของดีๆ อยากให้ผู้บริโภคอายุยืน ไม่อยากให้ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ เพราะมันไม่คุ้มทั้งค่ารักษาค่าเดินทาง เมื่อเทียบกับการเลือกบริโภคแต่สิ่งดีๆ เข้าสู่ร่างกาย ยิ่งเป็นเกษตรอินทรีย์ เป็นผลผลิตที่ได้จากธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี จ่ายแพงหน่อยแต่ก็ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ ดีกว่า”


หน้า 2 >